เมื่อโลกไม่ได้ดีขึ้นในชั่วข้ามวัน จะตั้งมั่นกับตัวเองได้ยังไง?

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ความหวังที่จะเห็นสังคมที่ดีขึ้นของคนรุ่นใหม่ โรคระบาด และการอยู่ร่วมกับระบบที่ไม่ได้เปลี่ยนไปได้โดยง่าย – เราถามนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ 3 คน ว่าดูแลตัวเองยังไงในเมื่อการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน และนี่คือคำตอบที่เราได้รับ

 

กัน อายุ 21 ปี ตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวในเรื่องของมรดกของชาติอยู่กับเพื่อน ๆ ชาวศิลปากร แล้วก็ผลักดันพร้อมพูดประเด็นปัญหาทางการเมือง พร้อมกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ

 

เรากำลังสู้กับสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก รู้สึกดาวน์มั่งมั้ย ดาวน์แล้วเป็นยังไง

 

ต้องมีดาวน์บ้างอยู่แล้วเพราะเราเป็นมนุษย์นี่นา ตอนที่ดาวน์เรามีสภาพแย่ทั้งทางจิตใจและร่างกาย เพราะเรารู้ว่าการต่อสู้เรียกร้องใดๆ ล้วนกินเวลานานพอสมควร ก็เลยต้องเตรียมใจเยอะ ซึ่งพอมันผ่านไประยะหนึ่ง เราพบว่า บางครั้งผลลัพธ์ได้มากกว่าที่คาดไว้ เช่น ประชาชนสนใจเยอะ แต่ขณะเดียวกันการตอบรับจากผู้มีอำนาจก็ได้น้อยกว่าที่หวัง มีอุปสรรคที่บั่นทอนจิตใจเยอะมาก ทั้งจากคนรอบตัว สภาพเงื่อนไขในชีวิต เพื่อนพี่น้องโดนจับ มันคือความเศร้าโศกเสียใจปะปนกับความโกรธแค้นชิงชังสลับกับการพยายามทำตามความหวังให้สำเร็จ

 

พอคิดแต่เรื่องงานมาก ๆ เข้า ก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย หรือไปมีความสุขเพื่อเยียวยาระหว่างทางจนไปถึงจุดหนึ่งที่อารมณ์ขึ้นสุดและไปต่อมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว ร่างกายและจิตใจก็พยายามหาทางหยุดคิดหยุดทำ ปลีกตัวให้ได้พักจากความตึงเครียด ซึ่งระหว่างตรงนี้เองก็เป็นช่วงที่อารมณ์ดาวน์เกิดขึ้นเพราะว่าเงื่อนไขในชีวิตหลายอย่างทำให้เราไม่สามารถไปในทุกๆ ที่และทุกๆ การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดความรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมา ว่าควรทำได้มากกว่านี้

 

มันใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลยกว่าจะเรียนรู้ได้ว่าเงื่อนไขในชีวิตของคนเรามีไม่เท่ากัน หรือการรับความเสี่ยงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน พอเราคลิ๊กตรงนี้ได้ เราก็จะรู้ตัวแล้วว่า การที่เราทำทุกอย่างไม่ได้นั้น มันก็ไม่ใช่ความผิดของเราซะทีเดียว

 

เวลาดาวน์เราฟื้นตัวได้ยังไง ใช้วิธีไหน

 

อาจจะต้องเริ่มจากทบทวนสภาพแวดล้อมและทบทวนตัวเราเองก่อนเพื่อยอมรับความจริง เพราะหลายครั้งเวลาเราโฟกัสไปที่เป้าหมายข้างหน้า เรามักหลงลืมในการหันกลับมาทบทวนมองสิ่งรอบตัวในปัจจุบัน

 

และสิ่งที่ยากมากคือการให้อภัยตัวเอง พอเกิดเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ หลายคนก็เลือกที่จะวนกลับมาโทษตัวเองก่อนเสมอ จนถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นอยู่ และมันก็ใช้เวลาในการต่อสู้กับความคิดความรู้สึกมาก ๆ แต่ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ เราจะเข้มแข็งมากขึ้น ปล่อยวาง ยอมรับและเข้าใจ ให้อภัยตัวเองได้มากขึ้น

 

พอเราให้อภัยตัวเองได้ แล้วเรายอมปล่อยให้ตัวเองมีความสุข เราจึงจะเรียนรู้ว่าแม้จะอยากเปลี่ยนแปลงสังคม อยากต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม เราก็ควรมีพื้นที่ให้ตัวเองได้ยิ้มได้หัวเราะบ้าง ได้อ่านหนังสือที่ชอบ ฟังเพลงเบาสมอง กลับไปวาดรูปทำงานอดิเรกเท่าที่ตัวเองจะมีเวลาว่าง

 

บางคนรู้สึกผิดที่ต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อมาดูแลตัวเอง จะมีอะไรแนะนำคนเหล่านั้นบ้าง

 

การให้ตัวเองมีความสุขบ้างไม่ผิดหรอก สุขภาพร่างกายจิตใจสำคัญนะ คุณต้องดูแลตัวเอง เพราะในขณะที่เราเซฟพลังงานเซฟตัวเองเนี่ย ก็ไม่ได้แปลว่าเราหลงลืมคนที่เจ็บปวด ลำบาก หรือใกล้ตายจากสภาพสังคมที่เกิดขึ้น 

 

แน่นอนว่าย่อมมีคนที่หลุดหายออกไปจากเส้นทางนี้ มีคนที่ไม่มีแม้แต่เวลาเหลือให้พักแล้ว แต่เรายังตระหนักรู้และย้ำเตือนตัวเองเสมอนะว่าต้องไม่ลืมพวกเขา เราสามารถมีเวลาพักได้โดยไม่ลืมใครที่หายไป และไม่ลืมว่ายังมีเป้าหมายบนทางที่ยาวไกลและยากลำบากรออยู่ 

 

พอเห็นคนรอบตัวท้อหรือสิ้นหวัง เราก็เข้าใจได้ว่าอุดมการณ์หรือความเชื่อเขาไม่ได้เปลี่ยนหรอก แต่ทุกคนก็มีช่วงเวลาที่เหนื่อยล้า การพักก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะงั้นอย่าเสียใจหรือโทษตัวเอง คุณทำเต็มที่เท่าที่ตัวเองทำได้แล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ

 

 ไม่อยากเปรียบเทียบว่าชีวิตคนเหมือนเครื่องจักรเพราะมนุษย์มีเลือดเนื้อและจิตใจ แต่ถ้าพูดถึงการเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างและทุกคนก็เป็นฟันเฟืองหรือส่วนหนึ่งที่ประกอบรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้อุดมการณ์มันขับเคลื่อนไปได้ จะเล็กหรือใหญ่ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป ความเคลื่อนไหวก็คงมาไม่ไกลจนถึงจุดนี้

 

เป้าหมายเราคือชีวิตที่ดีกว่านี้สำหรับตัวเองและทุกคน แต่ระหว่างทางก่อนถึงมันเป้าหมาย ลองใช้ชีวิตอย่างมุ่งมั่นสลับผ่อนคลายก็ไม่เสียหายนี่คะ คุ้มไม่คุ้มใครจะบอกได้กันนอกจากตัวเอง

 

คิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงระยะยาว

เราคิดว่าความอดทนน่าจะสำคัญที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ถึงแม้บางเรื่องเราไม่อยากทนอีกต่อไปแล้วก็เถอะ – แต่ในทางปฏิบัติคงแก้ไขทุกอย่างในชั่วข้ามคืนไม่ได้ 

 

ความอดทนเลยเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงระยะยาว แต่ทั้งนี้มันต้องทำอย่างอื่นประกอบกันไปด้วย ทั้งการสร้างความตระหนักรู้ การให้ข้อมูล ซึ่งพอมาถึงจุดที่เคลื่อนไหวภายใต้แรงกดดัน แบ่งปันเนื้อหาสู่ผู้คนที่อาจจะทั้งรับและไม่รับ การต่อสู้กับเวลา ทั้งหมดใช้ความอดทนทั้งนั้น  ความอดทนเลยเป็นคำตอบสำหรับเราค่ะ 

 

ปังปอนด์ กฤตนัน ดิษฐบรรจง อายุ 23 ปี นักเคลื่อนไหวอิสระที่ทำประเด็นเอชไอวี เพศ และสื่อ

 

เรากำลังสู้กับสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก รู้สึกดาวน์มั่งมั้ย ดาวน์แล้วเป็นยังไง

สำหรับเราก็มีบ้างที่ดาวน์ ซึ่งพอเมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่าดาวน์ ก็จะรีบถอยออกห่างจากสิ่งที่ทำให้ดาวน์ทันที  เพราะว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกแย่ งานที่เราทำก็จะออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ด้วย มันเป็นผลกระทบลูกโซ่เลย ดังนั้น การออกจากงานมาดูหนัง หรือฟังเพลง ไม่ก็นอนพัก คือทางที่ดีที่สุดสำหรับเราที่ได้ทรีทตัวเองบ้าง

 

เวลาดาวน์เราฟื้นตัวได้ยังไง ใช้วิธีไหน

เน้นการนอนให้พอ หยุดทำงาน ออกไปเที่ยวข้างนอก สูดอากาศสัมผัสแสงแดด เจอผู้คนในเงื่อนไขที่ทำได้ อย่างช่วงโควิดนี้ แม้ทุกคนจะบอกว่าเราควรอยู่บ้าน แต่ก็ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นว่าบ้านคือ Safe Zone 

ลองฟังเพลง ดูหนัง นัดเพื่อนไปกินข้าวอะไรแบบนี้ ซึ่งบางครั้งเราก็แอบขอเพื่อนไว้เลยนะว่านัดนี้ขอคุยเรื่องทั่วไป ดินฟ้าอากาศ ไม่คุยเรื่องงาน แต่บางทีก็ห้ามยากเพราะการรณรงค์ในเรื่องที่อินเนี่ยมันเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต 555

 

บางคนรู้สึกผิดที่ต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อมาดูแลตัวเอง จะมีอะไรแนะนำคนเหล่านั้นบ้าง

ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเลย เราว่าการดูแลตัวเองในตอนที่ไม่ไหวเป็นเรื่องที่งสำคัญมากๆ เพราะถ้าวันนี้เราดูแลตัวเอง เราก็จะเคลื่อนไหวสังคมได้ต่อไปในอนาคต เราพักตอนนี้เพื่อให้วันหน้าขับเคลื่อนได้นาน ดีกว่าแบบ เดินเครื่องชน ตู้มเดียวจบหมดไฟ ไม่ทำต่ออีกแล้ว

 

คิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงระยะยา

สำคัญสุดคือใจ ของคนที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม คือมันต้องเริ่มจากพวกเราก่อนว่าเราอยากจะทำมันจริงๆ แล้วทำในระยะยาว พอเข้าใจเรื่องข้อจำกัด เวลา ที่ไม่ได้เปลี่ยนกันชั่วข้ามคืนแล้ว วิธีการหรือขั้นตอนจะมาเอง ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ทำครับ

 

ดาราณี ทองศิริ อายุ 35 ปี ทำงานเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมทางเพศ สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย

 

เรากำลังสู้กับสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก รู้สึกดาวน์มั่งมั้ย ดาวน์แล้วเป็นยังไง

เราดาวน์เป็นพักๆ ถ้าช่วงไหนที่มีกระแสต่อต้านประเด็นที่เราทำอยู่ ก็จะรู้สึกดาวน์มาก หรือถ้ามันมีเคสที่สังคมค่อนข้างให้ความสนใจแล้วมีคำพูดที่เป็นพิษออกมา โดยเฉพาะถ้าคนพูดเป็นคนรู้จัก เพื่อน แต่เค้าไม่เข้าใจในประเด็นเหล่านั้น ก็จะดาวน์มากเป็นพิเศษ 

 

เวลาดาวน์เราฟื้นตัวได้ยังไง ใช้วิธีไหน

เราพยายามจะออกไปหาอะไรทำ กินอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวขับรถไกลๆ อ่านหนังสืออยู่บ้าน เล่นกับแมวที่บ้าน นอนหลับเยอะๆ แล้วถ้ามีพลังมากพอ ก็อาจจะกลับมาทบทวนว่า สิ่งที่ทำให้เราดาวน์ มันมาจากอะไร แล้วเราจะจัดการกับภาวะแบบนั้นยังไงในครั้งต่อไป

 

บางคนรู้สึกผิดที่ต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อมาดูแลตัวเอง จะมีอะไรแนะนำคนเหล่านั้นบ้าง

อยากให้พักเต็มที่ก่อน ถ้าดีขึ้นแล้วก็ออกไปเคลื่อนไหวต่อ ถ้าเราปล่อยให้ตัวเองทรุด มันก็เคลื่อนไหวอะไรต่อไม่ได้ ให้คิดซะว่า ถ้าเรายังไม่พร้อมทำงาน มันก็มีคนอื่นที่ทำงานเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก การที่เราหยุดพักไม่ได้แปลว่าทุกอย่างหยุดนิ่งไปนะ คนอื่นที่ยังเปลี่ยนแปลงสังคมก็ไปต่อได้ ไว้เรากลับมาได้เมื่อไหร่ก็มาช่วยกันเคลื่อนไหวต่อได้เสมอ

 

คิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงระยะยาว

คิดว่าการทำงานเชิงความคิดกับคนในสังคมไปเรื่อยๆ และมีความหวังว่าสังคมจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มีความหวังว่า คนจะเข้าใจถึงสิ่งที่เราทำมากขึ้นในอนาคต 

 

“ความเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันสองวัน แต่เราจะต้องทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นผล

 แล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้มีพลังกายและใจที่เข้มแข็งด้วย ถ้าเหนื่อยก็ถอยไปพักบ้างเป็นระยะ”