มิลเลนเนียล = คนรุ่นใหม่วัยเหงา
ภาพของมิลเลนเนียลมักถูกนำเสนอจากสื่อต่างๆ ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ออกไปท่องโลก แฮงค์เอาท์กับเพื่อน ใช้ชีวิตคุ้ม แต่ในขณะเดียวกันมิลเลนเนียลก็เป็นกลุ่มที่รู้สึก “เหงา” มากที่สุด และรู้สึกโดดเดี่ยวจากสังคมมากที่สุดด้วย
อย่างในประเทศอังกฤษ สถาบันสถิติแห่งชาติ ได้รายงานว่า กลุ่มคนอายุ 16-24 เป็นกลุ่มที่รู้สึก “เหงา” ที่สุด เช่นเดียวกับที่ประเทศเบลเยี่ยม งานวิจัยของ University of Leuven ก็ได้ผลว่า 20% ของคนรุ่นใหม่รู้สึกเหงาอยู่เป็นประจำ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่มีเพื่อน หรือพวกเขาไม่มีแวดวงคนใกล้ตัว
ความรู้สึกเหงาของมิลเลียนเป็นความโดดเดี่ยวทางสังคม (Social Isolation) มันคือความรู้สึก “ไม่สามารถเชื่อมโยงตัวเองกับโลกภายนอก คุณค่า หรือสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชนได้”
โลกสมัยใหม่ มาพร้อมกับค่านิยมที่มุ่งเน้นการฟังเสียงของหัวใจแล้วก้าวเดินไปตามความต้องการจากภายใน วิธีคิดแบบนี้ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนรู้สึกเหงา
“ความเหงาแสดงถึงความไม่เข้ากันในระดับพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือความไม่เข้ากันระหว่างความสัมพันธ์ที่คุณมีในเวลานี้ กับความสัมพันธ์ที่คุณอยากให้เป็น”
Will Wright ผู้ก่อตั้ง Pack Health บริษัทให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางออนไลน์ได้ให้คำจำกัดความเรื่องความเหงาได้อย่างน่าสนใจใน TED Talk
มิลเลนเนียลโตมากับแนวคิดส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเอง พวกเขาจึงรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร ความทะเยอทะยานเหล่านั้น ทำให้พวกเขาคาดหวังสิ่งต่างๆ รอบตัวเอาไว้สูง รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ และเมื่อความสัมพันธ์มันไม่เป็นไปดั่งใจ มันก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะรู้สึกเหงา แม้ว่าจะมีเพื่อนคุย หรือมีคนรักอยู่รอบตัวก็ตาม
ความโดดเดี่ยวทางสังคมส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งความเครียด โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า เช่นเดียวกับอาการสมองเสื่อม และอาจทำให้อายุขัยของมนุษย์สั้นลงได้ถึง 14%
ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามิลเลนเนียลเหล่านั้นจะโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาหรือไม่ หรือความเหงานั้นจะเป็นเพียงสภาวะชั่วคราว เรื่องนี้ต้องติดตามผลกันต่อไป
นักวิจัยทั่วโลกเริ่มศึกษาปรากฏการณ์ความโดดเดี่ยวทางสังคมมานับสิบปี เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรับมือกับมันอย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ที่ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องความเหงาโดยเฉพาะ และกำลังเริ่มวางนโยบายรัฐที่ทำให้คนรู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้น
