ผมกับเพื่อนคนนี้เป็นเด็กซิ่วมาเรียนปีหนึ่งที่เดียวกันด้วยอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกันทำให้เราสนิทกันมาก
…มากจนเกินไป จนทะเลาะกัน
ครั้งล่าสุดเป็นการการะทำที่ไร้สติของผมที่ทำในสิ่งที่เพื่อนผมเกลียดที่สุด จนถึงขั้นโกรธจะตัดเพื่อนกัน
มันจึงเกิดเป็นความเศร้าเสียใจกับกระทำของตัวเองที่ไม่มีสตินึกคิด
ตัวผมเป็นโรคซึมเศร้าด้วย เลยควบคุมความคิดอารมณ์ตัวเองไม่ได้นัก
ผมเครียด เสียใจมาก พยายามง้อพยายามขอโทษให้ถึงที่สุดเพราะกลัว
…กลัวจะเสียเพื่อนคนสำคัญคนนี้ไป
จากคำพูดของผมประโยคหนึ่งที่ว่า
“ถึงครั้งนี้กูจะทำให้มึงโกรธเกลียดด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้นกูก็ขอโทษจากใจ สำหรับที่ๆผ่านมาระยะ 1 ปี กูไม่เคยเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับมึงเลยหรอ ความรู้สึกคำพูดที่เคยพูดออกมาจากใจกันมันไม่มีความหมายของคำว่าเพื่อนกันเลยหรอ?”
เมื่อผมพูดจบเพื่อนผมก็เงียบแล้วเหมือนคิดอะไรอยู่ สุดท้ายเพื่อนก็ยอมให้อภัยแล้วเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
แต่ก็บอกว่าอาจจะไม่เหมือนเดิมนะ
ซึ่งผมก็เข้าใจว่าคงไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว
ผมก็ให้สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนเดิมจะทำอะไรก็จะมีสติให้มาก
หลังจากวันนั้นมาผมก็ทำให้เพื่อนเชื่อให้เพื่อนเห็นว่าผมกำลังปรับตัว
แต่ด้วยความที่ไม่เหมือนเดิมมันทำให้ผมรู้สึกว่า…ผมเสียเพื่อนคนๆนั้นไปแล้ว…
เขาไม่เล่นตบมุกกับผม
ผมชวนไปไหนก็ปฏิเสธตลอด
ไปไหนกับเพื่อนคนอื่นแต่ไม่ชวนผม
เขาทำเหมือนผมไม่ใช่เพื่อนไปแล้ว…
แต่ก็มีบางครั้งที่เขาเหมือนเผลอตัวเองทำปกติกับผม แล้วพอเขาคิดอะไรได้ก็ทำไม่ใส่ใจ เหมือนเขาทดสอบเล่นกับความรู้สึกของผม
ระยะเวลาผ่านมาก็ 1 เดือนแล้ว…
ผมรู้สึกอึดอัดได้แต่เก็บเอาไว้ เหงาตลอดเวลา ซึมเศร้าหนักกว่าเดิม
จนมันท้อแล้วอยากหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น แต่ก็ทำไม่ได้
เพราะผมคิดเสมอว่า เพื่อนสนิทยังไงก็คือเพื่อนสนิท
ถ้าเขาอยากตัดขาดกับเราเขาคงตัดสินใจตัดไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว คงไม่มาพิสูจน์ตัวเราจนถึงตอนนี้
แล้วผมยังเห็นแสงแห่งความหวังตลอดเวลา ตราบใดแสงนั้นยังไม่ดับผมก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้