เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน

เราเป็นคนที่เจอคนที่เข้ากับเราได้ยาก เป็นคนที่ไม่ได้พูดจาเก่ง ไม่ได้ชอบหรือเก่งเรื่องเข้าสังคม และด้วยวัฒนธรรม และ backgroud ที่ต่างจากเพื่อนต่างประเทศ ทำให้ในโรงเรียนที่เราไปแลกเปลี่ยนเรามีเพื่อนน้อยมาก แถมเพื่อนก็ไม่ได้ถึงขั้นสนิทกัน 

 

ก่อนจะไปแลกเปลี่ยนเพื่อนที่ไทยพูดกับเราว่า “อย่าหายไปนะ” เราจำมันได้ดี แล้วก็เชื่อมั่นในคำพูดนี้มาก ๆ

ในเดือนแรกเพื่อนก็ติดต่อตลอด คอลกัน เฟซไทม์หา แชทกัน แต่หลังจากนั้นก็น้อยลง ๆ จนเดือนที่ 3 ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย แต่เพราะเราเชื่อในคำพูดเพื่อนมาก ๆ ที่บอกว่าอย่าหายไป เราเลยถ่ายวิดีโอ คุยกลับกล้องทุกวัน หวังว่าเพื่อนจะดูมัน และรู้สึกว่าเราไม่ได้หายไป แต่ที่ถ่ายส่งไปก็ไม่ได้ถูกดูเลย

 

จนมีช่วงนึงที่โทรหาแม่บ่อยมาก แทบทุกวัน ถ่ายวิดีโอคุยกลับกล้องคนเดียวเยอะมาก ๆ แล้วก็ส่งให้เพื่อนดู (ซึ่งก็ไม่มีใครดูซักคน) 

จนโฮสต์สังเกต และได้เข้ามาคุยกับเรา และมีประโยคนึงที่พูดกับเราว่า “เธอดูเหงานะ”

เราสวนกลับทันทีว่า “เปล่า” 

 

หลังจากที่พูดออกไป เราชะงักไปครู่ใหญ่ ๆ ตามมาด้วยความรู้สึกชา แล้วก็เคว้งคว้าง

เหมือนทั้งชีวิตไม่เคยได้ยินคำว่าเหงามาก่อน 

เหมือนเราลืมไปแล้วว่ามันมีคำนี้อยู่ในโลก/มีความรู้สึกที่อย่างนี้อยู่ในโลก 

 

พอได้ยินคำนั้นแล้ว เหมือนห้องที่เรานั่งอยู่มันขยายออก กว้างจนเรารู้สึกไกลจากทุกอย่าง 

รู้สึกเคว้งคว้างเหมือนลอยอยู่ในอวกาศ รู้สึกว่าโลกทั้งโลกมีเราคนเดียว 

 

ตอนนั้นเองที่เราตระหนักได้ว่าเรากำลังเหงา และเข้าใจว่าความรู้สึกเหงามันเป็นแบบนี้นี่เอง 

มันรู้สึกเคว้งคว้างไปหมด รู้สึกว่าห้องที่เราอยู่มันใหญ่เกินไป และกำลังขยายขึ้นเรื่อย ๆ แล้วตัวเราก็เล็กลงเรื่อย ๆ 

 

หลังจากโฮสต์พูดจบก็เดินออกไป เราใช้เวลาตั้งตัวอยู่พักใหญ่

จนตั้งสติได้ว่า เพื่อนเราที่ไทยได้ “หายไปแล้ว” ทั้ง ๆ ที่บอกไม่ให้เราหายไป แต่กลับเป็นฝ่ายหายไปซะเอง 

และที่เราโทรหาแม่แทบทุกวัน หรือถ่ายวิดีโอ เป็นเพราะเราเหงา

 

หลังจากนั้นเราก็เลิกพยายามกลบเกลื่อนความเหงา เราหากิจกรรมทำ ไปทำอาสาสมัครดูแลหมาแมวไร้บ้าน 

ถึงจะไม่ได้เจอคน แต่ก็มีความสุขมาก ๆ ที่ได้อยู่กับหมาแมว

ที่ผ่านมาเราลืมที่จะอยู่กับตัวเองซักพัก เพื่อที่จะเช็คอารมณ์/ความรู้สึกของตัวเองที่เป็นอยู่ 

ทำให้เรามองข้ามคำว่าเหงาไป จนรู้ตัวอีกทีก็ทำให้ตกใจ รับมือไม่ทัน 

 

หลังจากวันนั้น เราจึงเรียนรู้ที่จะหยุดมองความรู้สึกตัวเองก่อนที่จะเอาความรู้สึกอื่น ๆ ใส่เข้ามา