ผมเพิ่งผ่านช่วงเลวร้ายของชีวิตมา วันนี้ก็เป็นวันที่เลวร้ายอีกวันหนึ่ง เพราะบุพการีมีปัญหาจากการถูกโจรกรรม เศรษฐกิจที่แย่ทำร้ายเราทุกคนอย่างรุนแรง เปลี่ยนคนให้เป็นอาชญากรได้ เรานึกสงสารโจรมากกว่าว่าเขาคงไม่เหลืออะไรแล้วจนต้องเลือกวิธีนี้ ก่อนหน้านี้เราหลอนประสาท กลัวคนทำร้าย มองคนรอบตัวว่าทุกคนสมเพชเรา พร้อมจะซ้ำเติมเรา ทั้งๆที่ความเป็นจริงคืออาการกลัวไปเอง เราค้นพบหลังจากพบแพทย์ว่าคนหลายๆคนก็ยังพร้อมที่จะให้กำลังใจเรา แม้จะผิดพลาด ล้มเหลว เสียสติ ทำร้ายคนอื่นอย่างรุนแรงมามากมาย และเราขอบคุณพวกเขามากๆที่ยังอยู่กับเรา พอผ่านมาได้เรารู้สึกโชคดีที่ยังเริ่มใหม่ได้ เราทำสัญญาสงบศึกกับความตาย ความกลัว และความเหงา พวกเขายังอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้กล้ำกลายเข้ามาในพื้นที่ชีวิตส่วนตัวเราแล้ว เราไม่อ่อนไหวไปกับพวกเขาแล้ว ความตายยังรอเราอยู่ที่ไหนสักแห่งแต่เราไม่สนใจ เราแค่หวังว่าเขาจะมาโดยสันติ และวันนี้คงยังเป็นอีกวันหนึ่งที่ไม่ใช่วันของเรา เราผ่านการเปิดกล่องแพนโดร่า ความเลวร้ายทั้งหมดที่ถาโถมยังไม่ฆ่าเรา เราแตกสลายเป็นชิ้นละเอียดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่โชคยังดีที่เราพบความหวังที่ก้นหีบ เราคว้ามันไว้โดยใส่ใจแค่ว่ามันจะนำพาชิ้นส่วนแต่ละชิ้นกลับมา เรารู้แน่ว่ามันไม่สามารถถูกประกอบกลับมาได้เหมือนเดิม ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว แต่เราเชื่อว่าเราจะถูกประกอบให้สมบูรณ์ยิ่งกว่าก่อนการแตกสลาย เรามองการแตกสลายและการประกอบใหม่ว่าขอให้มันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรารู้ดีว่าการผ่านการแตกสลายได้ การประกอบใหม่จะทำให้เรายิ่งสมบูรณ์ เราหวังว่าชิ้นส่วนที่ตกหายไปตามทางจะเหลืออยู่เยอะหน่อย เพราะเราเก็บชิ้นส่วนใหม่มาประกอบแล้ว แต่เราก็ยังคงรักในชิ้นส่วนเก่าของเราหลายชิ้น
Free Spirit Club
หนูรู้จักกับเขาโดยบังเอิญ และเราก็คุยกันมาเรื่อยๆในฐานะพี่น้อง ตอนแรกหนูแค่มีความรู้สึกดีด้วยเฉยๆ คิดว่าเขาดูคุยง่าย เฟรนด์ลี่ดี คุยสนุก มีอะไรเขาก็เป็นที่ปรึกษาแนะนำให้เราดี เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เขายอมให้หนูระบายสิ่งที่อึดอัดในใจ ทำให้หนูมีความรู้สึกดีๆกับเขา… วันหนึ่ง อยู่ๆเขาก็บอกว่า เขาเหงา และเขาก็ชวนคุยที่แปลกไปจากเดิม เขาหยอดมากขึ้น โทรมาคุยด้วย ทั้งๆที่แต่ก่อนก็ไม่เคย เขาบอกหนูน่ารักจัง ขอจีบหน่อยได้ไหม เขาเริ่มมาใกล้ชิดเรามากขึ้น จนคนรอบข้างก็แซวๆ เขาก็บอกกับคนอื่นนะคะ ว่าคนนี้กำลังจีบอยู่ อย่ายุ่ง มันทำให้หนูหวั่นไหวกับเขา เริ่มชอบเขา เขาบอกทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาให้หนูรู้ ซื้อของให้ เลี้ยงขนม พาไปนู้นไปนี้ จนคนอื่น เขาบอกว่าพวกเราเป็นแฟนกันหรอ หนูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะเรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เขาไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย เขาให้หนูเล่นโทรศัพท์ของเขา พอหนูเล่นเกมส์และมีคนมาคุยด้วย เขาก็บอกว่าเขาหวงหนู ไม่ให้หนูยุ่งด้วย หนูก็ไม่ยุ่ง เขาเทคแคร์หนูดีมาก เวลาหนูงอแงเขาก็ยอมให้หนูงอแง แล้วเขาก็ชอบลูบหัวหนู เขาทำเหมือนหนูเป็นคนสำคัญ เขาทำดีกับหนูมาก มากจนหนูรักเขาไปแล้ว แต่แล้วสุดท้าย…. เขาแค่ล้อเล่น […]
Free Spirit Club
December 17, 2018เราพึ่งย้ายมาอยู่หอของที่ทำงาน อยู่คนเดียวเลยออกเที่ยวบ่อย เพราะรู้สึกเหงามาก กว่าจะหลับในแต่ละคืน เที่ยว กินเหล้าบ่อยมาก แต่เมื่อคืนมันกลับต่างออกไป เราดันนัดกินเหล้ากับคนคุยเก่า เราเคยคุย และเกือบคบ แต่เราเป็นคนทิ้งเขาไปเอง แต่หลังจากนั้นเราก็เคลียกัน จนเป็นเพื่อนกันได้ เป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษากันมา 3 ปีละ ต่างคนต่างมีแฟนใหม่ แต่เผอิญดันโสดพร้อมๆกัน เค้าเป็นคนที่อยู่ในใจเราตลอดเลยนะ อาจจะด้วยเพราะเราเคยทำให้เขาเสียใจด้วยรึเปล่า มันเลยเหมือนยังมีอะไรติดค้าง และเรายังรู้สึกดี ไม่เคยคิดกับเขาแค่เพื่อนเลย จนเมื่อคืน เราดื่มกันแล้วไปนอนห้องเขา ก็คิดว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นนะ ตั้งใจตั้งมั่น แต่สุดท้ายก็เกือบ เพราะดันไปเห็นเขาร้องไห้ ในระหว่างที่เรากำลังจะทำอะไร … เขาไม่ได้ขัดขืนหรืออะไร แต่ดันไปโดนน้ำตาเขาที่เปียกบนหน้า เราสับสนมาก เพราะเขาไม่พูดว่าเพราะอะไร จนเราถามว่าทำไม เขาถึงบอกว่า เพื่อนกันเขาไม่ทำอะไรกันหรอกนะ เราก็ยอมรับตรงๆเลยว่า เราไม่เคยคิดกับเขาแค่เพื่อนเลย ยังรู้สึกกับเขามาตลอด เเต่เขาบอกเราว่าเขาคิดกับเราแค่เพื่อน เราเลยล้มเลิกที่จะทำอะไรเขา แล้วกลายเป็นว่า เรานอนกอดกัน และจับมือกัน พร้อมกับเขาลูบหัวเรา จนในตอนเช้าต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน […]
Free Spirit Club
December 17, 2018ฉันตัดสินใจออกจากกลุ่มมา เพราะความรู้สึกโดดเดี่ยว และหลังจากนั้นมา…ฉันก็อยู่ตัวคนเดียว เป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้แม้กระทั่งบรรดาอาจารย์เอือมระอา ทำให้เพื่อนๆทอดทิ้งฉัน และได้เริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุข (ในขณะที่ตอนที่มีฉันอยู่ ทุกคนคงรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย) แต่ถึงอย่างนั้น…ความรู้สึกเจ็บที่ไม่ว่าใครๆก็ต่างก้าวต่อไปข้างหน้าโดยลืมฉันไปแล้ว (ไม่สิ ไม่สนใจการมีอยู่ของฉันอีกแล้ว) ยังแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนชาไปทั้งตัว ฉันไม่สามารถหันหน้ามองพวกเขาได้อีก ฉันกลัวที่ได้ยินเสียง หรือรับรู้เกี่ยวกับพวกเขา ฉันขอแยกห้องนอนกับพ่อแม่เพื่อจะได้ร้องไห้ตอนกลางคืนได้อย่างเต็มที่ ฉันไม่กล้าลุกออกจากเตียงเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ แม้เรื่องดังกล่าวจะผ่านมาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่…ฉันก็อดนึกไม่ได้ว่า ฉันมันเป็นได้แค่ “พวกเรียกร้องความสนใจ” ใช่ไหม ฉันมันไร้ค่า… ฉันมันน่ารังเกียจ… ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันควรจะหายไป…จะได้ไม่เป็นภาระของใครอีก แต่…ที่ฉันยังอยู่ เพราะฉันมันขี้ขลาดเกินกว่าที่จะเสี่ยง หรือ เพราะลึกๆแล้ว ฉันยังหวังว่าฉันจะยังเป็นประโยชน์ เป็นความสุขของใครได้อีก (ทั้งๆที่ไม่เห็นทางเช่นนั้นเลย) ฉันกลัวที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ฉันก็กลัวที่จะถูกทอดทิ้งไปเช่นกัน
Free Spirit Club
December 17, 2018ความเหงาเป็นสิ่งที่ไม่เคยนึกเคยฝันเลยว่าจะเจอกับตัวเอง ตอนเด็กๆจำได้ว่าเป็นเด็กที่สามารถสนุกผ่านจินตนาการตัวเอง อิสระ ไร้ซึ่งแรงกดดัน แต่พอโตขึ้นความกลัวก็เริ่มเกาะกินใจ ….เด็กในวันนั้นหายไปไหน… ไม่มีเสียงตอบรับ… ทุกๆวันใช้ชีวิตกับคำถามที่ว่าเราเป็นอะไรกันแน่ ? เมื่อความกลัวเข้าถึงแก่นก็ทำให้รับรู้ได้ว่าโลกนี้มันช่างแย่เสียเหลือเกิน และความเศร้าก็เริ่มตามมา เราเถียงกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา จนสุดท้ายต้องเว้นระยะจากทุกคน เพื่อให้ทุกคนไม่มาเจ็บปวดกับสิ่งเหล่านี้ มันยากที่จะต่อสู้กับมันมากๆ วันนี้พยายามยอมรับและกอดมันไว้ ภาวนาว่า เด็กคนนั้นจะกลับมา… ได้แต่เหม่อมองท้องฟ้า ถ้าสักวันเราเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสวยงาม มันคงจะดีไม่ใช่น้อย
Free Spirit Club
December 17, 2018ตัวหนูเองเป็นคนขี้เหงาและขี้เบื่อมากๆ เป็นคนชอบอยู่กับคนอื่น ในขณะที่บางทีก็ชอบอยู่คนเดียว หนูเคยคบกับคนคนนึงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเพิ่งเลิกกันไปเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน ความเหงาในชีวิตหนูมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่หนูย้ายมาเข้าชั้น ม.4 ที่โรงเรียนอื่น หนูมาเหมือนตัวคนเดียวทั้งๆที่เพื่อนในกลุ่มก็มาด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่คนที่หนูสนิทที่มาด้วยกัน ในตอนแรกๆมายังไม่เจอปัญหาอะไร แต่ด้วยความที่สังคมที่นี้ต่างจากโรงเรียนเดิมมากๆ หนูได้แต่โทรไประบายกับแม่และเพื่อนสนิททุกสัปดาห์ จนมาเทอม 2 เพื่อนในกลุ่มตอนนั้นก็เริ่มมีปัญหา รวมถึงปัญหาระหว่างเพื่อนในห้อง แถมยังได้ยินข่าวมาว่ามีเพื่อนที่ไม่ชอบตัวหนูอยู่พอสมควร ตอนนั้นชีวิตดูสับสนและเคว้งไปหมดเลย มันเป็นช่วงพอดีกับที่แฟนที่เพิ่งเลิกเข้ามาในชีวิต ตอนนั้นก็มีเค้า มีเพื่อนและรุ่นพี่ที่สนิทค่อยรับฟัง คอยปลอบเวลาร้องไห้ จนคิดว่าตัวเองไม่ต้องเหงาแล้ว แต่จนเมื่อ 3 เดือนก่อน หนูมีปัญหากันจนเป็นเหตุให้ต้องเลิกรากันไป หลังจากนั้นเหมือนอะไรในชีวิตหายไป จากที่ไปไหนก็มีเค้าอยู่เป็นเพื่อน มีปัญหาอะไรก็มาเล่าให้เค้าฟัง ในตอนแรกๆเราก็ยังคุยกัน แต่หลังๆมาหนูเริ่มไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยเล่นกับเค้าแล้ว ชีวิตตอนนั้นมันเหงามาก อาจจะเพราะต้องทนในที่เดิมๆที่ไม่มีเค้า ในตอนแรกพอไปที่ที่เคยไปที่ที่เคยอยู่ด้วยกัน หนูร้องไห้ออกมาตลอดเลย ตอนที่คบกันคู่ของหนูมันดีมากดีจนหลายคนไม่คิดว่าเราจะเลิกกัน จนตอนนี้การเลิกกันครั้งนั้นก็ทำให้หนูกลัวการเริ่มให้ กลัวที่จะต้องเสียใครไปอีก แม้แต่ตอนนี้เพื่อนที่ไม่รู้ว่ายังไง ก็ภาวนาให้คิดกันเราแค่เพื่อนก่อน เพราะกลัวและไม่พร้อมที่จะเจอความเหงาอีกถ้าต้องเลิกกัน
Free Spirit Club
December 17, 2018ด้วยนิสัยส่วนตัวผมไม่ชอบความวุ่นวาย เสียงดัง สถานที่ที่ผู้คนเบียดเสียด การไปที่ที่คนเยอะๆ ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกหายเหงา แต่ทุกๆ ครั้งมันกลับทำให้ผมเหงามากกว่าเดิม ความเหงาสำหรับผมจึงไม่ได้เกิดจากการที่ผมไม่มีคนรอบข้าง แต่เกิดจากความรู้สึก “ไร้ตัวตน” ในฝูงชนมากกว่า หลายคนอาจมองว่า การไปสถานที่คนเยอะๆ ทำให้พวกเขาสนุก กล้าและมีกำลังทำสิ่งต่างๆ เพราะพวกเขาสามารถสัมผัสถึงพลังงานด้านบวกจากการได้ทำอะไรไปพร้อมๆ กับผู้คนหมู่มาก การกรี้ดไปพร้อมกับแฟนเพลงหรือแฟนกีฬาคนอื่นๆ การได้เต้นไปตามจังหวะเพลงและร้องเชียร์ทีมกีฬากับคนแปลกหน้าจำนวนมาก ถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่น่าจะทำให้ใครๆมีความสุข แต่สำหรับผมสถานการณ์แบบนั้นไม่ใช่อะไรที่ผมอยากทำ เพราะผมไม่สามารถสัมผัสถึงสายสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นๆ ได้ ผมชอบการนั่งในมุมเงียบๆ ของร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือห้องส่วนตัว นั่งคุยทำความรู้จักกับคนอีกคนมากกว่าการคุยกับคนไม่กี่คน สำหรับผมมันคือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีเสียงที่ดังจนเราคุยกันไม่ได้ ไม่มีอะไรเบี่ยงเบนความสนใจจากบทสนทนา เราได้รู้จักคู่สนทนามากขึ้น และเรามีโอกาสที่จะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจเรามากขึ้น การมีคนมองเห็น รับฟัง และเข้าใจผม นั่นคือความรู้สึกของการมีตัวตนในสังคม และทำให้ผมไม่รู้สึกเหงา บ่อยครั้งเวลาไปงานที่มีคนเยอะๆ เช่นปาร์ตี้ งานเลี้ยง หรือแม้แต่งานแต่งงาน ผมมักจะขอตัวกลับก่อน หรืออย่างดีที่สุดคือจะรอจนถึงพิธีการสำคัญและกลับบ้าน ด้วยนิสัยส่วนตัวของผมเอง เวลามีคนแย่งกันพูดมากๆ ผมมักเลือกที่จะหยุดพูด เวลาคู่สนทนามีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ เช่นมีคนมาทัก หรือมีอย่างอื่นที่เขาสนใจมากกว่า ผมมักเกรงใจและเลือกที่จะหยุดบทสทนาเพื่อให้เขาได้ไปจดจ่อกับสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องราวของผม […]
Free Spirit Club
December 17, 2018ช่วงแรกของการเรียนมหาลัย เราพยายามช่วยให้เพื่อน 10 คนเรียน กับเพื่อนอีกคนนึง เพราะเราค่อนข้างหัวไว พยายามกระตุ้น แล้วเพื่อนอีกคนที่ช่วยก็ซิ่วไป เราเลยต้องแบกทีม จนทะเลาะกันกับคนที่ไม่ได้ทำงาน 2 คน เรื่องใหญ่มาก แล้วเราก็เลยแยกออกมาคนเดียว เพราะเราให้ทั้งใจแต่เจอแบบนี้เลยรู้สึกแย่มาก หลังจากนั้นก็กลัวการเข้าสังคมขึ้นมา ไม่กล้ารู้จักใครได้นาน หรือสนิทมาก แต่เราก็เข้าไปช่วยเพื่อนในคณะทำงานของปี 1 บ่อยๆ แต่รู้สึกไม่สามารถจูนติดกับใครเลย เลยหันไปพึ่งแฟน ทำให้ห่างกับเพื่อนออกมาอีก ไม่ได้เข้าไปทำอะไรเลย แล้วเราก็กลัวการกลับเข้าไปในสังคมนั้น ล่าสุดเราลองพยายามเข้าไปอีกครั้ง ก็เหมือนตัวคนเดียวอยู่ดี อยากไป แต่อยู่จนทำงานเสร็จไม่ได้เพราะอึดอัด แต่จริงๆก็เหงา แต่มันไม่อยากเจอใครอีกแล้ว อยากเฟดตัวออกมาเงียบๆ
Free Spirit Club
December 17, 2018เราจะรู้สึกเหงาทุกครั้งเมื่อคิดถึงเพื่อนเก่าๆ เรามักจะคิดว่าทำไมเราถึงไม่มีเพื่อนเหลือเลย เราทำผิดตรงไหนรึป่าว? ตอนเด็ก เราเคยเป็นคนที่ชอบบังคับคนอื่น มองโลกในแง่ลบ และคอยจ้องจับผิดว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี เราคิดว่าเพราะนิสัยแบบนี้เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนสนิทเลย พอขึ้นมหาลัย เราเลยเปลี่ยนตัวเองและก็มีเพื่อนที่รู้สึกสนิทใจด้วย จนเรียนจบ เราคิดว่าความสัมพันธ์นี้จะยืนยาว… แต่เพราะหลายปีมานี้เรากับเพื่อนแทบจะไม่ได้เจอกัน แล้วความสัมพันธ์ก็ค่อยๆลดลง ตอนนี้เราไม่ได้คุยกับเพื่อน เราคิดว่าอยู่ได้ แต่พอเห็นภาพของคนอื่นๆในเฟส เราก็คิดว่าทำไมเราถึงไม่คุยกับเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ทำไมเพื่อนคนอื่นถึงไม่สนใจเราแล้ว ทำไมถึงมีแค่เราที่จดจำเรื่องของพวกเค้าได้ ?
Free Spirit Club
December 17, 2018ผมกับเพื่อนคนนี้เป็นเด็กซิ่วมาเรียนปีหนึ่งที่เดียวกันด้วยอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกันทำให้เราสนิทกันมาก …มากจนเกินไป จนทะเลาะกัน ครั้งล่าสุดเป็นการการะทำที่ไร้สติของผมที่ทำในสิ่งที่เพื่อนผมเกลียดที่สุด จนถึงขั้นโกรธจะตัดเพื่อนกัน มันจึงเกิดเป็นความเศร้าเสียใจกับกระทำของตัวเองที่ไม่มีสตินึกคิด ตัวผมเป็นโรคซึมเศร้าด้วย เลยควบคุมความคิดอารมณ์ตัวเองไม่ได้นัก ผมเครียด เสียใจมาก พยายามง้อพยายามขอโทษให้ถึงที่สุดเพราะกลัว …กลัวจะเสียเพื่อนคนสำคัญคนนี้ไป จากคำพูดของผมประโยคหนึ่งที่ว่า “ถึงครั้งนี้กูจะทำให้มึงโกรธเกลียดด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้นกูก็ขอโทษจากใจ สำหรับที่ๆผ่านมาระยะ 1 ปี กูไม่เคยเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับมึงเลยหรอ ความรู้สึกคำพูดที่เคยพูดออกมาจากใจกันมันไม่มีความหมายของคำว่าเพื่อนกันเลยหรอ?” เมื่อผมพูดจบเพื่อนผมก็เงียบแล้วเหมือนคิดอะไรอยู่ สุดท้ายเพื่อนก็ยอมให้อภัยแล้วเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่ก็บอกว่าอาจจะไม่เหมือนเดิมนะ ซึ่งผมก็เข้าใจว่าคงไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว ผมก็ให้สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนเดิมจะทำอะไรก็จะมีสติให้มาก หลังจากวันนั้นมาผมก็ทำให้เพื่อนเชื่อให้เพื่อนเห็นว่าผมกำลังปรับตัว แต่ด้วยความที่ไม่เหมือนเดิมมันทำให้ผมรู้สึกว่า…ผมเสียเพื่อนคนๆนั้นไปแล้ว… เขาไม่เล่นตบมุกกับผม ผมชวนไปไหนก็ปฏิเสธตลอด ไปไหนกับเพื่อนคนอื่นแต่ไม่ชวนผม เขาทำเหมือนผมไม่ใช่เพื่อนไปแล้ว… แต่ก็มีบางครั้งที่เขาเหมือนเผลอตัวเองทำปกติกับผม แล้วพอเขาคิดอะไรได้ก็ทำไม่ใส่ใจ เหมือนเขาทดสอบเล่นกับความรู้สึกของผม ระยะเวลาผ่านมาก็ 1 เดือนแล้ว… ผมรู้สึกอึดอัดได้แต่เก็บเอาไว้ เหงาตลอดเวลา ซึมเศร้าหนักกว่าเดิม จนมันท้อแล้วอยากหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมคิดเสมอว่า เพื่อนสนิทยังไงก็คือเพื่อนสนิท ถ้าเขาอยากตัดขาดกับเราเขาคงตัดสินใจตัดไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว คงไม่มาพิสูจน์ตัวเราจนถึงตอนนี้ แล้วผมยังเห็นแสงแห่งความหวังตลอดเวลา ตราบใดแสงนั้นยังไม่ดับผมก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้