เคยรู้สึกไหมว่า โลกถีบทิ้งคุณไว้ข้างหลัง เคยรู้สึกไหมว่า คุณกำลังหลงทาง และหัวใจก็เจียนแหลกสลาย “คุณได้แต่เหลียวมองรอบกาย เพียงหวังจะได้พบใครคนนั้น แต่ก็แกล้งทำเป็นว่า ‘ฉันไม่แคร์’ นั่นมันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอก เพราะคุณก็ยังดั้นด้นค้นหาคนคนนั้นอยู่ดี” - บทเพลง Angel Eyes ในช่วงต้นของภาพยนตร์ ถ้อยคำรันทด
ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ แวบแรกที่ ดิว พบ เกด ในสภาพไร้วิญญาณบนเตียงชันสูตรศพ ไม่มีน้ำตา ไม่มีเสียงคร่ำครวญให้เพื่อนรัก เพราะเธอตกอยู่ในความช็อคและชา แต่ภายในความคิดกลับเหมือนจะพร่ำพูดอย่างไม่หยุดว่า “ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ปฏิกิริยาชาเหมือนไร้ความรู้สึกในตอนต้นนั้น แท้แล้วก็คือ กลไกทางจิตที่พยายามเยียวยาความรู้สึก ด้วยการ “
“แคเทอรีนที่รัก วันนี้ฉันหลงทาง หลงทางเพราะสูญเสียเธอไปแล้ว ดาวเหนือของฉัน เมื่อคืนฉันฝันว่า พระเจ้าทรงประทานคืนเธอมาให้ เพื่อให้ใจของฉันสงบเสียที แต่เมื่อตื่นขึ้น ความสงบนั้นก็หายไป ฉันอยากมีจิตใจสงบเช่นในฝันนั้น ...ตลอดกาล…” - นี่คือบันทึกรักของ “กาเรตต์” หนุ่มชาวเล ที่ส่งให้แก่คนรัก แม้ว่าเธอจะตายจากไปแล้ว ทุกคืนวันอันเศร้าหมองของเขา หมดไปกับการโหยหาอาลัย
ทารกในครรภ์ถูกโอบล้อมอย่างนุ่มนวลด้วยทุกอณูของเนื้อเยื่อภายในกายของแม่ เสียงเต้นตุ้บ ๆ ของจังหวะหัวใจ เสียงโครกครากภายในท้อง และเสียงพูดของแม่คือความคุ้นชินที่แสนอบอุ่นและปลอดภัยในความรู้สึก สภาพไร้น้ำหนักในครรภ์นั้นทำให้ซึมซับกับเสรีภาพ ที่จะล่องลอยเหมือนปลา หรือโบยบินเหมือนนก แต่แล้ววันหนึ่ง อาณาจักรอันไพศาลของเขาก็กลับหดแคบลง ...หดแคบลงทุกขณะ ผนังภายในกายของแม่นับวันก็บีบรัดยิ่งขึ้นทุกทีทุกที กระทั่งเขาจำต้องก้มหน้าและขดตัวอย่างยอมจำนน แต่ในที่สุดก็กลายเป็นความเพลิดเพลิน เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับจังหวะแห่งการรัดบีบสลับการผ่อนคลายที่มาเป็นระลอก ๆ และแล้วไม่นาน
แม้ความรัก คือ ความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่หากคู่รักใดไม่รู้จักทะนุถนอม ไม่หมั่นรดน้ำพรวนดินต้นไม้แห่งความรัก ก็มีหวังเหี่ยวเฉาและแห้งตายเข้าสักวัน เช่นเดียวกันกับเหตุผลของคนที่ตัดสินใจครองคู่อยู่กินกัน นอกจากจะเพราะความรักแล้ว การได้หลุดพ้นจากความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ปฏิเสธไม่ลง ซาร่าห์ (เคท วินสเลท) คุณแม่ลูกหนึ่ง กับกลุ่มเพื่อนบ้านหญิง มักมานั่งเม้าทธ์กันเป็นกิจวัตร ณ สวนสาธารณะในหมู่บ้าน พร้อมๆกับชะเง้อรอการโผล่เข้ามา
ใครเคยสงสัยบ้างมั้ยว่า ทำไมคนเราจึงแต่งงานกัน? คำตอบของคำถามนี้ย่อมมีหลากหลาย แต่เหตุผลที่ทุกคนคงไม่ปฏิเสธก็คือ เพื่อหลีกหนีความอ้างว้างโดดเดียวและได้ใกล้ชิดกับคนรู้ใจ แต่คุณจะรู้สึกอย่างไร? หากเมื่อถึงคราวครองคู่อยู่กิน คนที่เคยรู้ใจกลับทอดทิ้งให้คุณต้องว้าเหว่เหมือนวัตถุโบราณ หรือกลับสวมเขาทรยศนอกใจโดยไม่เห็นแก่ความดีที่คุณเคยกระทำมา โจวมู่หวัน (เหลียงเฉาเหว่ย) และ ซูไหล่เจิน (จางมั่นอวี้) เป็นเพื่อนบ้านข้างห้องที่บัดนี้เหมือนเพื่อนร่วมชะตากรรม ลงเรือ (รั่ว) ลำเดียวกันเหตุเพราะ
“ชีวิตก็เหมือนช็อกโกแลต ที่ไม่รู้ว่าในนั้นสอดไส้อะไรบ้าง?” หนึ่งในประโยคเด็ด จากภาพยนตร์หลายรางวัลเรื่องนี้ ที่ได้กลายเป็นคติประจำใจของใครหลาย ๆ คน เนื้อหาสะท้อนให้เห็นได้จากการก้าวสู่จุดสูงเด่นของชายไอคิวต่ำอย่างนาย ฟอเรสท์ กัมพ์ที่เพียงทำ ณ วินาทีนี้ให้ดีที่สุด โดยไม่ฟุ้งซ่าน ไม่วอกแวก และโดยไม่คาดหวังใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการ ตีปิงปอง, วิ่งมาราธอนหรือ
“คนสองคนรักกัน ไม่ใช่เกิดจากเพราะการมองเห็นอนาคตที่สดใส แต่เพราะทั้งคู่มองเห็นอดีตที่อยากให้หวนคืน” - เฮเลน ฟิซเชอร์ นักมานุษยวิทยาผู้เขียนหนังสือ Why We Love ก็เป็นเช่นเดียวกับสาวผมแสดคลีเมนท์ไทน์ (เคท วินสเลท) ผู้ที่เกิดความรู้สึกเซ็งขี้หน้าโจเอล (จิม แครี่) แฟนหนุ่มซะเต็มทน “เขาทำให้ฉันอารมณ์เสียเสมอ โดยเฉพาะรอยยิ้มแหย ๆ
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ความหวังที่จะเห็นสังคมที่ดีขึ้นของคนรุ่นใหม่ โรคระบาด และการอยู่ร่วมกับระบบที่ไม่ได้เปลี่ยนไปได้โดยง่าย - เราถามนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ 3 คน ว่าดูแลตัวเองยังไงในเมื่อการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน และนี่คือคำตอบที่เราได้รับ กัน อายุ 21 ปี ตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวในเรื่องของมรดกของชาติอยู่กับเพื่อน ๆ ชาวศิลปากร แล้วก็ผลักดันพร้อมพูดประเด็นปัญหาทางการเมือง พร้อมกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ
ช่อขวัญ ช่อผกา (คิดตี้) เป็น CEO และผู้ก่อตั้งของบริษัท Elevated Estate ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาในเชิงของธุรกิจ และเป็นคุณแม่สุดเฮี้ยบของลูกๆ วัยกำลังซน ด้วยความที่คิตตี้โตมากับเกมครอบครัวอย่าง Monopoly, Clue, Scrabble ความเนิร์ดนี้ก็ได้ส่งต่อไปยังลูกๆ ที่เร่ิมอยากเรียนวิธีเล่น Magic the Gathering
“คนเราไม่ได้เป็นแบบเดิมตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราอยู่สถานที่ไหนและเราต้องการให้มันเป็นยังไง” - สัณหณัฐ ทิราชีพ (นอร์ท) คอนเทนท์ครีเอเตอร์ นักเดี่ยวไมโครโฟน และนักแสดง บอกกับเราด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เพจบ้านกูเองใช้เวลา 2 ปี ในการสร้างผู้ติดตามจาก 0 สู่ยอดผู้ติดตาม 800,000 คน ในปี